ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และพยายามดึงเจ้าหนี้และลูกหนี้ให้มาอยู่ในระบบ และป้องกันไม่ให้กลับไปเป็นหนี้เสียนอกระบบอีก เบื้องต้นมี 3 โครงการ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ
โครงการสินเชื่อเอนกประสงค์ การยื่นกู้ผ่านธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตร หรือ ธ.ก.ส.จะปล่อยกู้วงเงินสูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดดอกเบี้ยอัตราคงที่ 05-0.85% ต่อเดือน ตามหลักประกัน โดยลุกหนี้สามารถยื่นกู้แบบปกติหรือรับเป็น “บัตรพีเพิลการ์ด” ของธนาคารออมสิน และ ”บัตรกดเงินสดอุ่นใจ” ของ ธ.ก.ส.เพื่อใช้เป็นวงเงินฉุกเฉินเวลาจำเป็น สามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน 5 ปี นอกจากนี้ยังกำหนดคุณสมบัติเพิ่มเติม คือ ห้ามนำมารีไฟแนนซ์ มีหลักทรัพย์หรือต้องมีคนค้ำประกันอย่างน้อย 1 คน แหล่งที่มารายได้ชัดเจน สามารถกู้ได้ที่ธนาคารทุกสาขา
โครงการสินเชื่อเอนกประสงค์ เป็นสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด การยื่นกู้ผ่านพิโกไฟแนนซ์ จะปล่อยกู้วงเงินสูงสุดรายละไม่เกิน 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 36% ต่อปี ไม่มีเงื่อนไขควบคุมการใช้เงิน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ หรือคนค้ำประกัน ระยะเวลาผ่อนชำระขึ้นอยู่กับผู้ให้กู้กำหนด แต่สามารถกู้ได้ภายในจังหวัดที่อาศัยอยู่หรือที่ทำงานอยู่เท่านั้น
ส่วนเจ้าหนี้นอกระบบสามารถสมัครเข้าโครงการพิโกไฟแนนซ์เพื่อเข้าสู้ระบบปล่อยกู้อย่างถูกกฎหมาย โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้ เป็นนิติบุคคล ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาทขึ้นไป แผนธุรกิจปล่อยกู้ชัดเจน ไม่รับฝากเงิน คิดอัตราดอกเบี้ย 36% ต่อปี ตาม พ.ร.บ. ทวงหนี้ การคุ้มครองผู้บริโภค หากคิดดอกเบี้ยเกินกำหนดจะถูกยึดใบอนุญาติทันที
โครงการสินเชื่อเพื่อประกอบอาชีพ ยื่นกู้ผ่านนาโนไฟแนนซ์ จะปล่อยกู้วงเงินสูงสุด 100,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 36% ต่อปี ผ่อนชำระสูงสุดได้ไม่เกิน 5 ปี ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน แต่การยื่นกู้ต้องแสดงธุรกิจหรืออาชีพที่นำเงินไปลงทุนและแสดงรายได้อย่างชัดเจน โครงการนี้ไม่จำกัดจังหวัด ขึ้นอยู่กับที่ตั้งและสำนักงานว่ามีเปิดให้บริการในพื้นที่หรือไม่
อย่างไรก็ตาม การให้วงเงินสินเชื่อเป็นเพียงกลไกอย่างหนึ่งที่ช่วยเติมเต็มสภาพคล่องให้กับลูกหนี้นอกระบบ เพราะสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ คือ การดูแลรายได้ ปรับปรุงพฤติกรรมใช้จ่าย รักษาวินัยทางการเงิน เพื่อไม่ให้ลูกหนี้กลับมาเป็นหนี้นอกระบบอีก หรือ เป็นหนี้เสียของสถาบันทางการเงิน
URL : -
2017-12-08 10:55:30